การสื่อสารเรื่องเพศกับเด็กๆ และเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครอง และคุณครูควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องใช้ความถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศที่สามารถทำให้เขาได้เข้าใจและมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเองได้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคต ในยุคปัจจุบันมีข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเกี่ยวกับเรื่องเพศ เด็กๆ ได้รับข้อมูล ทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องจากสังคมสื่อออนไลน์ หรือจากเพื่อนฝูง ทำให้พวกเขามีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องและตัดสินใจผิดในการสื่อสารเรื่องเพศเป็นวิธีที่สามารถสร้างทัศนคติที่ดีได้ หากเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเรื่องเพศไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ ความรัก ความรับผิดชอบ และการดูแลตัวเองโดยวันนี้บทความของเราจะมาพูดถึงสื่อสารสอน เรื่องเพศในแง่มุมต่างๆ ของเยาวชนและเด็กๆ ตั้งแต่วิธีการสอน วิธีรับมือ ข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงตำรานอกบทเรียนที่ไม่ได้ถูกสอนในชั้นเรียนเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงความสำคัญกับยุคสมัยใหม่
การสอนเรื่องเพศให้กับเด็กและเยาวชนนั้นต้องมีความระมัดระวังและเลือกการสอนที่เหมาะสมกับวัยหรือวิธีการสื่อสารควรคำนึงถึงระดับความเข้าใจและการพัฒนาการของเด็กๆ โดยเรามีคำแนะนำดังต่อไปนี้
ข้อเสีย หากเรื่องเพศเด็กและเยาวชนไม่ได้รับความรู้ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นในการชีวิตของพวกเขายกตัวอย่างอาทิเช่น
ข้อดี ช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อเรื่องเพศศึกษาสำหรับเยาวชน เป็นเรื่องที่สามารถเปิดเผยให้เด็กๆ มองเรื่องเพศในแง่บวกได้ และเข้าใจส่วนหนึ่งของชีวิตได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดปัญหาทางเพศ และเพิ่มความมั่นใจในการสำรวจตัวเองมากขึ้นด้วย
ในโลกที่เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา การใช้ชีวิตในประจำวันของเยาวชนสามารถแนะนำผ่านสื่อที่เหมาะสมได้ เลือกสื่อการเรียนรู้เช่นภาพยนตร์ หนังสือ เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้เด็กๆ และเยาวชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และมีความทันสมัยไปกับยุคสมัยใหม่ ชวนคุยกับบรรยากาศที่เปิดกว้าง ทำให้เด็กๆ และเยาวชนรู้สึกความสบายใจ เมื่อคุยเรื่องเพศไม่ควรตำหนิหรือสร้างความอับอาย เมื่อเขามีคำถาม? เกี่ยวกับเรื่องนี้ส่งเสริมการพูดคุยและการเรียนรู้ในครอบครัว เพราะการคุยเรื่องเพศศึกษาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว! ควรมีการสนทนาในบทต่อไป แล้วค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้เด็กๆ และเยาวชนได้เรียนรู้ในลักษณะที่ไม่บีบบังคับและมีการเปิดใจกันมากขึ้น
แม้จะเป็นเพศที่สาม หรือ LGBTQ ชายรักชาย หญิงรักหญิง การไม่เลือกเพศ การไม่รู้ตัวเองว่าเป็นเพศอะไร หรือการมีเพศสัมพันธ์ในรูปแบบแตกต่างก็สามารถใช้การพูดคุยเรื่องเพศศึกษาได้เช่นกันค่ะ เพราะมีการกล่าวถึง การเรียนรู้และค่านิยมของกลุ่มคนเฉพาะนี้ในอีกหลากหลายแง่มุม
การให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน โดยเฉพาะเริ่มต้นจากการพูดคุยกับคนในครอบครัว การเปิดอกคุยกันทำให้เด็กๆ มีความเชื่อมั่นและสามารถเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้จากผู้ปกครองได้โดย ไม่ต้องมีการเขินอายใดๆ เมื่อถึงเวลาที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง หรือพบกับสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ เพราะการที่ได้รับรู้เรื่องนี้ จะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆเช่นการตั้งครรภ์ การป้องกันโรคติดต่อ การพูดคุยในแต่ละช่วงวัยนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รวมถึงการเรียนรู้ในห้องเรียนเป็นส่วนช่วยที่จะทำให้เด็กๆ สร้างความเชื่อมั่นมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง และการรับรู้ในโลกของเทคโนโลยีการสื่อสาร Social Media ก็สามารถทำให้พวกเขาได้เปิดโลกมากขึ้นด้วย การเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องที่น่าอายสำหรับเยาวชนในยุคนี้และมีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิต